ทุกวันนี้ภาวะโลกร้อนกำลังก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้คนและระบบนิเวศอย่างหนัก เราเห็นธารน้ำแข็งจากขั้วโลกกำลังละลาย ปะการังตายจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น คลื่นความร้อนโจมตีประเทศเมืองหนาว ทำอย่างไรที่เราจะรักษาสมดุลและลดการแปรปรวนของสภาพอากาศได้ แนวคิดเรื่องการใช้พลังงานสะอาดจึงเป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะเป็นพลังงานทดแทนที่ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตได้จากธรรมชาติทั้งแสงอาทิตย์, ลม, น้ำ และชีวมวล เป็นต้น พลังงานเหล่านี้สามารถใช้ได้ไม่มีวันหมด แก้ปัญหามลภาวะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้วงการออกแบบบ้านและอุตสาหกรรมก่อสร้างนำแนวคิดนี้มาทำ “บ้านพลังงานทดแทน” ที่ผลิตพลังงานใช้ได้เองพร้อมฟังก์ชั่นล้ำๆ ช่วยลดการปล่อยของเสียจากตัวบ้านออกสู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

หัวใจของบ้านพลังงานทดแทน
-
รักษ์สิ่งแวดล้อม ทุกขั้นตอนในการก่อสร้าง เริ่มตั้งแต่กระบวนการออกแบบบ้าน จนถึงการเตรียมพื้นที่ การเลือกใช้วัสดุ ที่ขั้นตอนการผลิตรวมถึงการขนส่งจะมีค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด ตลอดจนการตกแต่งภายในก็เน้นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
-
ลดการใช้พลังงาน บ้านจะพึ่งพิงธรรมชาติเป็นหลัก ใช้พลังงานน้อยที่สุดและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม มีฟังก์ชั่นนำพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การติดแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคาบ้านเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้, การติดตั้งที่เก็บน้ำฝนเพื่อการอุปโภคบริโภค เป็นต้น
-
หมุนเวียน นำของเสียในบ้านกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น มีระบบบำบัดน้ำเสียแล้วนำกลับมาใช้ในชักโครกหรือรดน้ำต้นไม้, นำเศษอาหารที่เหลือมาหมักเป็นปุ๋ยเอาไปใส่ต้นไม้หรือพืชผักสวนครัว, มีเครื่องหมักของเสียจากขยะให้เป็นก๊าซชีวมวล (Biogas) แล้วนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้มในบ้าน เป็นต้น
หน้าตาของบ้านพลังงานทดแทนเป็นอย่างไร
ลองมาดูบ้านที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นต้นแบบที่มีดีไซน์ล้ำสมัย มีเอกลักษณ์โดดเด่น สามารถอาศัยอยู่ได้จริง พร้อมฟังก์ชันที่สร้างพลังงานทดแทนกัน The Slip House ออกแบบโดย Carl Turner ใน Brixton, London บ้านหลังนี้ แต่ละชั้นมีการติดกระจกบานใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติ ชั้นบนสุดมีการติดตั้งที่เก็บน้ำฝนได้ถึง 2,700 ลิตร มีการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตน้ำอุ่นจากความร้อนบนพื้นดินได้ด้วย (รูปภาพจาก Newatlas.com)

ZEB Pilot House ออกแบบโดย Snøhetta ร่วมกับ สถาบันวิจัยสิ่งปลูกสร้างพลังงานศูนย์ของนอร์เวย์ (ZEB) สร้างบ้านที่ติดแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคาบ้าน สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 3 เท่าของปริมาณที่ต้องใช้ในแต่ละวัน แถมพลังงานที่เหลือสามารถนำไปชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทำน้ำอุ่นให้สระว่ายน้ำในช่วงหน้าหนาวได้ด้วย (รูปภาพจาก Newatlas.com)

The Hill Country House ออกแบบโดย Miró Rivera บ้านนี้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าร์เซลล์ได้ถึง 8 กิโลวัตต์ ประหยัดพลังงานได้มากกว่าบ้านทั่วไปถึง 80% มีการติดตั้งระบบทำความร้อนและความเย็นให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมภายนอก รวมถึงมีที่เก็บน้ำฝนกว่า 3 หมื่นแกลลอนเอาไว้ใช้ภายในบ้าน(รูปภาพจาก Inhabitat.com)

The Port Hope House ออกแบบโดย Teeple Architects ทุกส่วนของบ้านมีฟังก์ชันสามารถผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ได้เอง ด้วยการติดฟิล์มโซล่าร์เซลล์ที่เคลือบอยู่บนกระจกรอบตัวบ้าน ทำให้ไม่ต้องติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ ส่วนผนังมีลักษณะพิเศษ คือ เคลือบผงถ่านสังกะสีที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน นอกจากนี้ยังมีระบบบำบัดน้ำเสียและกรองน้ำฝนเพื่อใช้ในการอุปโภคได้ (รูปภาพจาก Inhabitat.com)

Tight house ออกแบบโดย Studio Cicetti, Anastos Engineering และ ZeroEnergy Design เป็นอาคารตึกแถวอายุกว่า 100 ปี ในเมืองนิวยอร์ก มีการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ ใช้ผลิตน้ำอุ่นและกระแสไฟฟ้า รวมถึงระบบต่างๆ ในบ้าน มีการติดตั้งหน้าต่างให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในอาคารให้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีระบบที่ระบายความร้อนจากตัวบ้านออกสู่ภายนอกเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์เข้ามา ทำให้บ้านหลังนี้ประหยัดพลังงานกว่าบ้านทั่วไปถึง 75% (รูปภาพจาก Newatlas.com)

Heliotrope ออกแบบโดย Ralph Disch เป็นบ้าน Zero-Energy แรกๆ ของโลก ติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ที่หมุนตามแสงอาทิตย์ได้ ผลิตไฟฟ้าได้ถึง 6.6 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง สามารถนำไปใช้ในการทำน้ำอุ่น สร้างความอบอุ่นในตัวบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีระบบกักเก็บน้ำฝนเพื่อการอุปโภค และมีระบบบำบัดน้ำเสียนำกลับมาใช้เป็นน้ำชักโครกได้ด้วย (รูปภาพจาก wonderfulengineering.com)

ไทยกับเทรนด์บ้านพลังงานทดแทน
ในอดีตไทยไม่ได้ตื่นตัวเรื่องการใช้พลังงานทดแทนมากนัก จนเมื่อกระแสโลกร้อนรวมถึงเทคโนโลยีพลังงานทดแทนเข้าถึงได้มากกว่าแต่ก่อน ทำให้ภาครัฐส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ สนับสนุนให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เอง และเป็นส่วนหนึ่งของระบบไฟฟ้าประเทศ ด้วยการขายไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้เข้าสู่ระบบได้ ในส่วนวงการอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีดีเวลลอปเปอร์ใช้แนวคิด Green Mission สร้างจุดเปลี่ยนต่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยผ่านการวาง Green Roadmap ขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกโครงการ และตั้งใจลดการใช้พลังงานและปล่อยของเสียลงในทุกโครงการผ่าน 3 แนวทางหลักคือ 1. Tree เก็บ เลือก ปลูก รักษาต้นไม้เดิมและสร้างพื้นที่สีเขียว 2.Energy ลดการใช้พลังงานและทดแทนด้วยพลังงานสะอาด และ 3.Recycle ลดการใช้ขยะพร้อมนำกลับมาใช้ใหม่และเลือกใช้วัสดุ ทำให้บ้านนอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนแล้ว ยังสร้างความสุขให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
ที่มา : https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/home-car/energy-house.html